สายชาร์จแบตในปัจจุบันโดยส่วนใหญ่จะใช้เป็น USB-C กันทั้งสิ้น และนอกจากนี้ยังมีการรองรับ Fast Charge ซึ่งจะช่วยให้ชาร์จแบตได้เร็วยิ่งกว่าเดิม อย่างเช่น การชาร์จแบตจาก 0-100% ได้ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ทั้งนี้การชาร์จแบบ Fast Charge จะไม่สามารถใช้ได้กับ USB-C แบบปกติ เพราะ USB ทั่ว ๆ ไป จะส่งพลังงานเพียง 2.5W เท่านั้น แต่การชาร์จแบบรวดเร็วจะส่งพลังงานถึง 15E ด้วยกัน หรือบางรุ่นอาจจะส่งพลังงานถึง 100-120W เลยทีเดียว รับรองได้เลยว่าการชาร์จแบตมือถือของทุกคนจะเป็นเรื่องง่าย และรวดเร็วได้มากที่สุดแน่นอน
วิธีเช็กสายชาร์จ USB-C ว่าเป็น Fast Charge หรือไม่ มีวิธีเช็กอย่างไรบ้าง?
อย่างแรกหากต้องการเช็กสายชาร์จของตนเองนั้น เราจะต้องชี้ให้เห็นว่าสายชาร์จ usb-C เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการชาร์จแบตอย่างรวดเร็วเท่านั้น และยังต้องใช้งานร่วมกับอแดปเตอร์ AC หรือแท่นชาร์จนั่นเอง ซึ่งอะแดปเตอร์จำเป็นต้องรองรับการชาร์จแบบรวดเร็วด้วยเช่นกัน
ซึ่งถ้าหากโทรศัพท์ของเรารองรับมาตรฐานการชาร์จเร็วแบบใดแบบหนึ่ง โทรศัพท์จะมาพร้อมกับอะแดปเตอร์ AC และสายชาร์จที่เปิดใช้งานการชาร์จเร็วได้ แต่หากไม่เป็นเช่นกัน จะสามารถตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของเรารองรับมาตรฐานการชาร์จเร็วในรูปแบบใด และค้นหาอุปกรณ์เสริมที่สามารถเข้ากันได้นั่นเอง
ทั้งนี้สำหรับใครที่มีสายชาร์จและอะแดปเตอร์อยู่แล้ว จะสามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ เพียงดูรายละเอียดของสาย ซึ่งจะแสดงอยู่ในกล่อง หรือทางออนไลน์ ที่อาจจะระบุเอาไว้ว่า ชาร์จเร็ว หรือ Adaptive Fast Charging, Quick Charge, USB PD, หรือ USB Power Delivery เป็นต้น
และอีกหนึ่งสิ่งที่จะเพิ่มความง่ายต่อการตรวจสอบ คือ ความหนาของสายเคเบิล เพราะสายที่สามารถชาร์จเร็วได้นั้น มักจะมีความหนามากกว่าสายชาร์จแบบปกติเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ถือว่าสะดุดตาเสมอไป เพราะยังสามารถดูจากอะแดปเตอร์ AC ที่รองรับการชาร์จเร็ว และสามารถใช้โทรศัพท์เช็กให้แน่ใจว่า สายชาร์จนั้น ๆ ชาร์จเร็วได้เช่นกัน เพียงเท่านี้ก็สามารถรู้ได้อย่างง่ายดายว่า สายชาร์จของทุกคนเป็นแบบไหน เพื่อที่จะใช้งานได้อย่างสะดวก
สำหรับการชาร์จแบบรวดเร็วนั้น จะไม่สามารถใช้งานได้กับสายชาร์จทุกรูปแบบ เพราะจะมีสายชาร์จแบบเฉพาะที่สามารถชาร์จเร็วได้นั่นเอง รวมทั้งยังต้องใช้งานร่วมกับอแดปเตอร์แบบ AC เพื่อที่จะใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และนอกจากนี้โทรศัพท์ทุกเครื่องจะไม่ได้รองรับการชาร์จอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นในส่วนนี้ทุกคนควรตรวจสอบให้ดีก่อนใช้งาน เพื่อที่จะใช้งานได้อย่างถูกต้อง และให้ความปลอดภัยในการใช้งานได้ดีมากที่สุด
